เมื่อก่อนมาบ้านเราบ๊อยบ่อย แล้วยังเป็นวงแรกๆ ที่ตระเวนทัวร์ต่างจังหวัด อิสานก็ไป ใต้ก็ไป (ถ่ายเอ็มวีด้วย) เขาใหญ่ก็ไป แล้วอยู่ๆ NU’EST ก็หายหน้าไปนานมากกกกก จนเลิฟไทยใจฝ่อไปตามๆ กัน การได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง แถมมาพร้อมคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรก เลยถือได้ว่าเป็นเหมือน ‘ฝันเป็นจริง’ ของเลิฟ แต่ที่ไม่คิดคือเป็น ‘ฝันเป็นจริง’ ของสี่หนุ่มด้วยเหมือนกัน แต่ก่อนจะซึ้ง เราไปอ่านเรื่องแบบยาวๆ ของการได้กลับมาเจอกันอีกครั้งกันก่อน
ช่วงเย็นวันศุกร์ สื่อรวมตัวโดยนัดหมายที่โรงแรมดุสิตธานี สถานที่จัดงานแถลงข่าวของ NU’EST W (ตอนนี้ต้องมี W ต่อท้ายเพราะขาดเมมเบอร์ไป 1 คนคือมินฮยอนที่ติดภารกิจกับ WANNAONE) แล้วสี่หนุ่มก็เดินขึ้นเวทีมาในชุดสูทหล่อๆ แรกๆ ยังดูเหมือนมีความเขินๆ เกร็งๆ อยู่บ้าง แต่หลังจากพูดคุยไปสักพักก็เริ่มสนุกสนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังถูกถามว่าจำภาษาไทยคำไหนได้ รู้จักเพลงไทยเพลงไหนบ้างไหม ระดับวงที่เคยมาถ่ายเอ็มวีในประเทศไทยเขาไม่มาเป็นคำหรือชื่อเพลงนาจา มาแบบร้องเพลงไทยเลยจ้า แถมร้องตั้ง 2 เพลงด้วยคือ แพ้ทาง กับ ใจกลางความรู้สึกดีๆ ถึงแม้เพลงแรกจะมีความดำน้ำไปบ้าง แต่ก็ต้องให้คะแนนเอ็นดูในความตั้งใจของน้อง เร็น กับ แบคโฮ อ๋อ พี่ อารอน กับพี เจอาร์ เขาไม่ร้องค่ะ พี่ลีดเขาบอกว่าคนละหน้าที่กัน! ก่อนจะขำปิดท้าย
รุ่งขึ้นเราก็ฝ่าสายฝนไปธันเดอร์โดม หันมองแล้วมีความชื่นใจเพราะที่นั่งเต็มเกือบทุกที่ หลุมก็แน่นกำลังพอดีๆ เรียกว่าปลื้มใจแทนศิลปิน (ยอมรับว่าเอ็นดู 5 หนุ่มมากอยู่ เพราะเห็นเด็กๆ มาตั้งแต่หนูบัวกับพี่ลีดอายุแค่ 17 แล้วเป็นเด็กที่นิสัยดีมีความตั้งใจทำงาน เราก็แอบเชียร์ให้โด่งให้ดัง…) และเมื่อทั้งสี่ปรากฏตัวบนเวทีในชุดขาวหล่อเนี้ยบกับเพลง Where You At ต่อด้วยFace และ Action สองเพลงที่เคยได้ดูได้ฟังเมื่อนานมา สมัยพวกเขามาไทยแรกๆ กับมาขึ้นเวทีคอนรวมศิลปินที่สนามราชมังคลาฯ โหวววววว มีความแน่นๆ ตื้อๆ ในอก จะว่าเหมือนฝันก็คงประมาณนั้น เพราะไม่คิดว่าจะมีวันที่จะได้ดูได้ฟังเพลงพวกนี้ในบ้านเรา ณ เวลานี้ หรือคิดอีกที คือพี่ต้องรอมานานแค่ไหนกว่าจะได้เห็นเด็กๆ กลับมาเพอร์ฟอร์มให้ดูอีก นี่ไง ถึงบอกว่าอารมณ์ฝันเป็นจริงมันคือแบบนี้ และเชื่อว่าเลิฟไทยในธันเดอร์โดมที่ติดสอยห้อยตามหนุ่มๆ ไปเขาใหญ่ไปกระบี่ตั้งแต่ตอนโน้นก็น่าจะอารมณ์เดียวกัน ถ้านึกไม่ออก คงคล้ายๆ ได้เห็นลูกเรียนจบรับปริญญา ตื้นตัน อิ่มเอิบ หน้าบาน มีความแน่นๆ ในหัวใจ
และถ้าคิดว่าฟินแล้ว ยังจ้ะ เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงพูดคุย พี่ลีดก็บอกว่ารอมานานเหลือเกินเช่นกันที่จะได้มีคอนเสิร์ตในประเทศไทย และวันนี้ดีใจที่ฮอลล์เต็ม (ทำหน้าซึ้งไปอีก) น้องเร็นก็เปิดใจยาวว่ารักเมืองไทยมากมาตั้งแต่เด็กๆ และการมีคอนเสิร์ตในไทยคือความฝัน วันนี้ฝันของหนูบัวเป็นจริง โง้ยยยยยยยย เลิฟรอบข้างปาดน้ำตากันป้อยๆ เลยเชียว ก็อย่างที่เคยบอก พูดว่ารักใครๆ ก็พูดได้ แต่ถ้าได้ยินคำว่ารักจากไอดอลเกาหลี 100 วง เราจะรับรู้ได้ว่าอันไหนรักจริงซึ้งจริงมีความออกมาก้นบึ้งหัวใจและความรู้สึกจริงๆ NU’EST W คือหนึ่งในวงที่จริงมากๆ
แต่ก็ไม่ใช่จะซึ้งกันอย่างเดียว คอนเสิร์ตก็ต้องสนุก แถมสี่หนุ่มยังเตรียมตัวมาอย่างดี ขนโปรดักชั่นจัดเต็มทั้งพลุไฟระเบิดควัน ยืนดูไปก็ร้อนหน้าวูบๆ เป็นระยะ สายรุ้ง คอนเฟตติ อันนี้ไม่ต้องกล่าว เป็นของที่ต้องมี และที่ดีมากคือเวทีหมุนตรงกลาง สเกลยังกับเล่นในอิมแพ็ค ทั้งยกสูงทั้งหมุนให้ผู้ชมทุกทิศได้เห็นสี่หนุ่มแบบเต็มๆ ครบทุกด้าน เช่นเดียวกับการเพอร์ฟอร์มที่จัดมาทั้งช่วงแด๊นซ์เท่ๆ ช่วงเซ็กซี่ ช่วงน่ารักมุมิ ช่วงบัลลาดหวานเฉียบสะกดใจ งานโซโล่ก็มา แล้วยังจัดมาแบบโชว์จุดเด่นของทั้งสี่ได้ดีมาก ตั้งแต่เจอาร์กับเพลงแร็ปสุดเท่ เรียบง่ายในชุดดำ แด๊นเซอร์ไม่ต้อง แต่แค่เดินไปแร็ปไปก็เอาอยู่ อารอนกับเพลงเซ็กซี่เบาๆ โชว์ลีลาเลื้อยให้ใจสั่น เร็นจัดเต็มกับการเล่นเปียโนช่วงต้น ก่อนจะเข้าสู่ช่วงเต้นสวยๆ แล้วไปจบที่การกระชากเสื้อคลุมเหลือแค่ซีทรูสุดเซ็กซี่ และแบคโฮกับการยึดเวทีอยู่หมัดด้วยน้ำเสียงและการร้องสุดเพราะสมกับเป็นเมนโวคอล ตะลึงอึ้งเงียบกริบกันทั้งฮอลล์
ช่วงท้ายหลังเดินเซอร์วิสแฟนไปทั่วฮอลล์ เก็บข้าวของที่เลิฟโยนขึ้นมาให้ไปใส่ไปเล่นกันอย่างน่าเอ็นดู ทุกคนก็เปิดใจอีกรอบ ย้ำเหมือนเดิมว่าการได้มีคอนเสิร์ตที่นี่วันนี้คือฝันเป็นจริง ขอบคุณทุกคนที่รอและให้กำลังใจเสมอ และจะขยันทำงาน ทำเพลงดีๆ มาให้ฟังกันเพื่อจะได้กลับมาเมืองไทยเร็วๆ ฟังแล้วก็แน่นๆ ในอกอีกรอบ เพราะรับรู้ได้ถึงความจริงใจในสิ่งที่ทั้งสี่พูด
ถึงอาจจะไม่ได้เจอกันบ่อยๆ เหมือนก่อน แต่เลิฟก็จะสนับสนุน NU’EST W อยู่ตรงนี้เหมือนเดิมแหละเนอะ จนกว่าจะพบกันใหม่…