วันนี้ (20 ตุลาคม) สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ จัดงานแถลงข่าวและการประชุมส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ รวมถึงเปิดตัวโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเงินสนับสนุนต่าง ๆ
การท่องเที่ยวไต้หวันฯ เข้ามาเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นเวลาหลายปีแล้ว หลังจากที่เริ่มทดลองใช้มาตรการฟรีวีซ่าให้แก่นทท.ชาวไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2016 จำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาเยือนไต้หวันก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ในปี 2019 ช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเยือนไต้หวันกว่า 413,000 คน
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นวันแรกที่รัฐบาลไต้หวันได้เปิดประเทศสำหรับการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ในวันดังกล่าวก็มีนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกจำนวนหนึ่งเดินทางมายังไต้หวัน ผู้ประกอบการบริษัททัวร์กล่าวว่า ผลตอบรับการท่องเที่ยวในไต้หวันเป็นไปในทิศทางที่ดี คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีกลุ่มทัวร์ทยอยจัดทริปไปไต้หวัน รวมถึงความต้องการการท่องเที่ยวแบบ INCENTIVE ก็จะกลับมาสูงเช่นกัน เส้นทางบินไทย – ไต้หวันกลับมาเร่งฟื้นฟูหลังไต้หวันเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปไต้หวันเฉลี่ยสัปดาห์ละ 48 เที่ยว ได้แก่ China Airlines, EVA Air, Star Air, Tiger Air ฯลฯ คาดว่าในระยะเวลาอันใกล้จะมีอีกหลากหลายสายการบินตามมา นักท่องเที่ยวจะมีทางเลือกในการจองตั๋วเครื่องบินที่มากขึ้น การวางแผนการเดินทางก็จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย
เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไต้หวันมากขึ้น ทางกทท.ไต้หวันฯ ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวแบบกลุ่ม ได้แก่ กิจกรรม “Taiwan Special Offer, First Gift 1,000 NTD!” นักท่องเที่ยวที่ซื้อแพคเกจทัวร์ไต้หวัน (ขั้นต่ำ 24,000 บาท) กับบริษัททัวร์ที่ร่วมรายการจะได้รับบัตร Easy Card มูลค่า NT$599 และของใช้จำเป็นสำหรับการเดินทาง 1 ชุด รวมทั้งหมด 2,000 ชุดหรือจนกว่าสินค้าจะหมด
สำนักงานกล่าวว่าบัตร Easy Card เป็นบัตรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในไต้หวัน ไม่ว่าจะซื้อชานมไข่มุก มาสก์หน้า ช้อปปิ้งของการในตลาดกลางคืน ฯลฯ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวไทย ก็สามารถชำระผ่านทาง Easy Card ได้ทั้งนั้น กทท. หวังว่าจะดึงดูดคนไทยให้ซื้อแพคเกจทัวร์ไต้หวันมากขึ้นจากกิจกรรมนี้
นอกจากโครงการสนับสนุนสำหรับนักท่องเที่ยวแบบกลุ่มแล้ว สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ มีแผนจะจัดโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวแบบ FIT ในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ในวันเดียวกันนั้น กทท. ยังได้ประกาศโครงการเงินสนับสนุนสำหรับผู้ประกอบการบริษัททัวร์ เพื่อกระตุ้นให้บริษัททัวร์จัดแพคเกจท่องเที่ยวไต้หวันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น สิทธิพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเทศกาลโคมไฟไต้หวันปี 2023 การอุดหนุนงบประมาณสำหรับโฆษณา การท่องเที่ยวแบบ INCENTIVE และสนับสนุนเที่ยวบินเช่าเหมาลำ…ฯลฯ ตลาดการท่องเที่ยวของประเทศไทยถือว่าฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง สำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ ได้ทำการโปรโมทการท่องเที่ยวผ่านช่องทางต่าง ๆ อย่างแข็งขันไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมงาน Thailand International Travel Fair (TITF) ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า การร่วมมือกับบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวเปิดตัวแพคเกจท่องเที่ยวคุณภาพสูง โครงการเปิดตัว Brand Ambassador โครงการโปรโมทผ่านสื่อช่องทางต่าง ๆ รวมถึงการจัดทริปเชิญผู้ประกอบการและสื่อไปไต้หวันเพื่อสัมผัสประสบการณ์การเดินทางใหม่และสถานที่ท่องเที่ยวใหม่… ฯลฯ
สำนักงานการท่องเที่ยวฯ กล่าวว่า คาดว่าหลังเกิดโรคระบาด นักท่องเที่ยวจะให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในการท่องเที่ยวมากขึ้น จึงวางแผนจะร่วมมือกับตัวแทนการท่องเที่ยวทั้งแบบบริษัททัวร์ และแบบออนไลน์ (OTA) ในการออกแบบแผนการเดินทางตามหัวข้อที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวชาวไทย ไม่ว่าจะเป็น ทัวร์สายมู ทัวร์จักรยานรถไฟ หรือทัวร์ตามรอยร้าน Michelin & Bib Gourmand ฯลฯ เพื่อสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงลึกให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยโดยเฉพาะ
บุคคลในภาพรวมเรียงตามลำดับ
1.Mr. Ben Chang ตำแหน่ง GM of Starlux Airlines
2.Mr. Jason Pan (เจสัน พาน) ตำแหน่ง GM of China Airlines
3.คุณสมชาย ชมระกา ตำแหน่ง อุปนายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว TTAA
4.Mascot Oh Bear
5.Dr.Chuang Suo Hang (ดร.จวงชั่วฮั่น) ตำแหน่ง ท่านผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำประเทศไทย
6.คุณ Cindy Chen (เฉิน), ตำแหน่ง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ
7.Mr. Jackie Kang ตำแหน่ง GM of EVA (ala) Airways
