ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลี ประจำประเทศไทย (ผู้อำนวยการโจแจอิล) ได้จัดงาน ‘สวัสดีปีใหม่เกาหลี 2023’ ณ ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีในวันที่ 24 มกราคม เนื่องจากตรงกับเทศกาลปีใหม่เกาหลี ซึ่งถือเป็นเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้คาดว่าน่าจะมีชาวเกาหลีและชาวไทยประมาณ 1,000 คนเข้าร่วมงาน รวมถึง ฯพณฯ นายมุน ซึง-ฮย็อน ผู้นำองค์กรเกาหลีในประเทศไทย ทหารผ่านศึกเกาหลี และนักเรียนและนักศึกภาษาเกาหลีและเกาหลีศึกษา ครั้งนี้ได้เชิญอาจารย์และนักศึกษาจาก 4 มหาวิทยาลัย คือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย อีกทั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาอีก 9 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุงปทุมธานี โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย โรงเรียนสกลวิทยา โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี โรงเรียนสายน้ำผึ้ง ในพระอุปถัมภ์ฯ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย 2 โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย โรงเรียนมัธยมวัดทรงธรรม และโรงเรียนศึกษานารี ส่งนักเรียนเข้าร่วมงานกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย กิจกรรมจะเริ่มจาก ฯพณฯ นายมุน ซึง-ฮย็อน และพลเอก บัณฑิตย์ มลายอริศูนย์ นายกสมาคมทหารผ่านศึกเกาหลี ในพระบรมราชูปถัมภ์และประธานสมาคมเกาหลีต่างๆ
ในประเทศไทยเป็นตัวแทนผู้ใหญ่ของทั้งสองประเทศรับไหว้เซแบ (การเคารพผู้อาวุโสเพื่ออวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่เกาหลี) จากผู้อาวุโสน้อย เช่น นักเรียน นักศึกษา ทั้งชาวไทยและชาวเกาหลีที่พำนักอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเด็กๆ
เหล่านี้มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม จากนั้นบรรดาผู้ใหญ่ก็จะมอบบัตรกำนัลพร้อมกับให้พรแก่เด็กๆ
และขอให้พวกเขานำประเทศเกาหลีและไทยไปสู่อนาคตที่ดี วัฒนธรรมการไหว้เซแบนี้มีความคล้ายคลึงกับประเพณี ‘สงกรานต์’ หรือปีใหม่ไทยที่ให้ความสำคัญกับการเคารพผู้อาวุโส โดยจะมีวัฒนธรรมการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และอวยพรขอให้สุขภาพแข็งแรงและอายุยืนยาว ส่วนผู้ใหญ่ก็จะให้พรแก่ผู้อาวุโสน้อยกว่าเช่นเดียวกัน หลังจากเสร็จกิจกรรมไหว้เซแบ ก็จะยังมีกิจกรรมวัฒนธรรมเกาหลีอันหลากหลาย ที่จะให้ผู้เข้าร่วมงานได้สนุกกันทั่วหน้า ได้แก่ การละเล่นพื้นบ้านเกาหลีทูโฮ เชกีชากี และแพงงี มีการสาธิตทำต็อก การโม่แป้งถั่วเขียว สวมชุดฮันบกและอื่นๆ ในสมัยก่อนคนเกาหลีจะต้องตีต็อกด้วยฆ้อนไม้ที่เรียกว่าต็อกเม ส่วนเมนูซุปต็อก (ต็อกกุก) ที่ทำจากแป้งต็อกที่มีลักษณะเป็นแท่งยาวๆ แล้วนำมาหั่นเป็นรูปคล้ายเหรียญ ต็อกกุกนี้เป็นอาหารที่รับประทานในวันขึ้นปีใหม่เกาหลีมีความหมายว่าอายุยืนและมั่งคั่ง จบกิจกรรมด้วยการลองชิมต็อกกุกเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่ นายโจแจอิล ผู้อำนวยการศูนย์ ฒนธรรมเกาหลีกล่าว “วันปีใหม่ของเกาหลีถือเป็นวัฒนธรรมครอบครัวอันอบอุ่น โดยครอบครัวของคนเกาหลีจะมารวมตัวกันเพื่อทำความเคารพผู้อาวุโส ทานต็อกกุกร่วมกัน เล่นการละเล่นพื้นบ้านร่วมกัน” และยังกล่าวอีกว่า “ผมหวังว่าทุกท่านจะได้สนุกไปกับวัฒนธรรมวันปีใหม่เกาหลีซึ่งแตกต่างกับวัฒนธรรม ‘ตรุษจีน’ ของจีนผ่านกิจกรรมนี้” สำหรับตรุษจีนของจีนจะมีมันดู (เกี๊ยว) เป็นอาหารประจำเทศกาลและส่วนใหญ่จะใช้สีแดงในงานเทศกาล แต่สำหรับซอลลัลหรือวันปีใหม่เกาหลีจะใช้สีขาวในทุกสิ่งทุกอย่างในเทศกาล เช่น ต็อกกุกก็จะสีขาว ซองเซแบตน (ซองเงินปีใหม่) ก็เป็นซองสีขาว มีความหมายว่าการเริ่มต้นใหม่ นอกจากนี้ในงานสวัสดีปีใหม่เกาหลียังมีการแสดงดนตรีพื้นบ้าน โดยใช้เครื่องดนตรีสาย ได้แก่คายากึมและคอมุนโกอีกด้วย ซึ่งทุกท่านสามารถเข้าชมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย