“ดอยคำ” ผู้นำตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมอันดับหนึ่งในไทย บุกตลาดไอศกรีมครั้งแรก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “ICE POP” ครั้งแรกของดอยคำในการต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านน้ำผลไม้ด้วยการยกระดับความสดชื่นสู่ผลิตภัณฑ์หมวดใหม่ ICE Snack ที่จำหน่ายที่ชั้นสินค้าอุณหภูมิปกติ สามารถรับประทานเป็นไอศกรีมเมื่อแช่แข็ง (Freeze) ในตู้เย็นเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับตลาดและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ เจเนเรชั่นวาย (Gen Y) และเจเนเรชั่นซี (Gen Z) เปิดตัว 3 รสชาติแรก ได้แก่ รสสตรอว์เบอร์รีทูนหัว รสบ๊วยไม่บ๊วย และรสมะม่วงฮักเสาวรส ในบรรจุภัณฑ์แบบใหม่จากบริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำด้านโซลูชันการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของโลก พร้อมทั้งนำเสนอจุดแข็งของแบรนด์ในด้านผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากผลผลิตที่สดจริงจากธรรมชาติและเป็นสินค้าคุณภาพ เพิ่มความสดชื่นให้ผู้บริโภคได้ง่าย ๆ เพียงแค่ “แช่ ฉีก ป๊อป” แช่ฟรีซ ในช่องทำน้ำแข็ง ฉีกซองรับความอร่อย และป๊อปความสุขได้ทุกช่วงเวลาที่ต้องการความสดชื่น พร้อมจัดกิจกรรมแถลงข่าว เชิญ 2 นักแสดงคู่ขวัญใจวัยรุ่น “ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์” เเละ “ภูวินทร์-ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน” ร่วมเปิดตัวความ POP ที่สุดสดชื่น ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้า สยามพารากอน ในวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2566
นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน “ดอยคำ” เป็นผู้นำอันดับหนึ่งตลาดน้ำผลไม้ประเภท Premium และ Medium มุ่งผลิตสินค้าที่ตอบสนองผู้บริโภคที่ต้องการความสดชื่นและคุณประโยชน์ด้วยผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจเพื่อสังคม ที่มีพันธกิจหลักขององค์กรในการส่งเสริมและรับซื้อผลผลิตของเกษตรกรไทย นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมะเขือเทศ น้ำเสาวรส น้ำมะม่วง น้ำลิ้นจี่ น้ำสตรอเบอร์รี น้ำฝรั่ง และสินค้าประเภทอื่น ๆ อีกมากกว่า 200 รายการ ในปี 2566 เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค และขยายโครงการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรที่เพิ่มมากขึ้น ดอยคำ จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ICE POP” ที่มาในรูปแบบไอศกรีมจากน้ำผลไม้แท้ พร้อมแพคเกจรูปแบบใหม่ ไม่ซ้ำใคร วางจำหน่ายบนชั้นสินค้าน้ำผลไม้ในอุณหภูมิห้อง เป็นแบรนด์น้ำผลไม้เจ้าแรกของโลก และเจ้าเดียวในไทย ด้วยนวัตกรรมการผลิต เครื่องบรรจุและบรรจุภัณฑ์รุ่นTetra Fino® Aseptic ที่ช่วยรักษาอุณหภูมิสินค้าโดยไม่ใช้วัตถุกันเสีย ไม่จำเป็นต้องเก็บรักษาหรือขนส่งสินค้าด้วยการแช่เย็นเทคโนโลยีระบบปลอดเชื้อมาตรฐานโลกจากเต็ดตรา แพ้ค
“ICE POP” มาพร้อมสโลแกน “FREEZE ความสุข POP ความสดชื่น” กับ 3 รสชาติ ที่สดชื่น อร่อยลงตัว ได้แก่ “บ๊วยไม่บ๊วย” (เครื่องดื่มหวานเย็นบ๊วยผสมน้ำผึ้งและมะนาว) รสชาติที่มีเอกลักษณ์ของบ๊วย ผสมผสาน
ความเปรี้ยวของมะนาว และความหวานของน้ำผึ้งได้อย่างลงตัว, “สตรอว์เบอร์รีทูนหัว” (เครื่องดื่มหวานเย็นสตรอว์เบอร์รี) รสชาติของ “สตรอว์เบอร์รี” สายพันธุ์พระราชทาน 80 ผลไม้ยอดนิยมที่มีรสชาติหวานหอม และ “มะม่วงฮักเสาวรส” (เครื่องดื่มหวานเย็นมะม่วงผสมเสาวรส) ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความหวาน ของ “มะม่วง” และความเปรี้ยวของ “เสาวรส” จับคู่รสชาติของความอร่อยได้แบบลงตัว วิธีรับประทานเพียงแค่ “แช่ ฉีก ป๊อป” แช่ฟรีซ ในช่องทำน้ำแข็ง ฉีกซองพร้อมรับความอร่อย ป๊อปความสุขได้ทุกช่วงเวลาที่ต้องการความสดชื่น มาในรูปแบบซอง ขนาด 85 มล. ราคาซองละ 20 บาท และรูปแบบกล่อง บรรจุ 6 ซอง ราคากล่องละ 120 บาท บรรจุภัณฑ์ของเต็ดตรา แพ้คที่ใช้บรรจุ ICE POP ผลิตจากกระดาษจากป่าปลูกเชิงพาณิชย์ซึ่งผ่านการรับรองจากองค์การจัดการด้านป่าไม้ โดยดูได้จากฉลาก FSC บนบรรจุภัณฑ์ มีบทบาทในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน อีกทั้งจัดจำหน่ายในรูปแบบอุณหภูมิห้องง่ายต่อการบริหารจัดการด้านการขนส่ง จึงช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากสู่ชั้นบรรยากาศซึ่งเป็นปัญหากับสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
ICE POP มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ เจเนเรชั่นวาย (Gen Y) และเจเนเรชั่นซี (Gen Z) และกลุ่มเป้าหมายรอง ได้แก่ กลุ่มที่มีอายุ 26 ปี ขึ้นไป ซึ่งเป็นผู้ปกครองรุ่นใหม่ที่ใส่ใจกับเรื่องอาหารและโภชนาการของลูกและวัยทำงานที่มองหาสินค้าสำหรับคนในครอบครัว ทั้งเด็กและผู้สูงอายุที่บ้านและต้องการให้รางวัลกับตัวเอง ด้วยการมองหาของกินเล่น (Snack) มาช่วยเติมเต็มความสุขระหว่างวัน พร้อมระเบิดความ POP กับ แคมเปญแบบ Online to Offline ด้วยวิธีการสื่อสารแบบ 360 องศา ผ่านแคมเปญสื่อสารการตลาดบนนอกบ้าน (Out of Home Media) สื่อเคลื่อนที่ (Moving Ads) สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และภาพยนตร์โฆษณาชุด “ใดๆ ในโลกล้วนป๊อป” จำนวน 3 เรื่อง ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากบทสนทนาของวัยรุ่นเกี่ยวกับความชอบส่วนตัว ทั้งเรื่องแนวเพลง ภาพยนตร์ และหนังสือที่ชอบ โดยเนื้อเรื่องมีการจบแบบหักมุมทำให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย สามารถรับชมพร้อมกันทั้งในแพล็ทฟอร์ม ทีวี และออนไลน์…ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็พร้อมป๊อปความสดชื่น
สำหรับการจัดกิจกรรมแถลงข่าวเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ได้เลือก 2 นักแสดงขวัญใจวัยรุ่นจาก จีเอ็มเอ็ม ทีวี “ปอนด์-ณราวิชญ์ เลิศรัตน์โกสุมภ์” เเละ “ภูวินทร์-ภูวินทร์ ตั้งศักดิ์ยืน” พร้อมด้วย “น้องมาตา-เด็กหญิงมาตาลินน์ ป้องศรี” แฟชั่นนิสตาตัวน้อย จากเพจ “แม่จ๋า ๆ พามาตาไปเที่ยวหน่อย” มาร่วมงาน เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จัก อีกทั้งเป็นการกระตุ้นการทดลองสินค้าในกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้า สยามพารากอน ในวันอังคารที่ 9 พฤษภาคม 2566 นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเดินสายประชาสัมพันธ์โดยสื่อเคลื่อนที่ในรูปแบบรถสามล้อ (รถตุ๊กตุ๊ก) เพื่อเสิร์ฟความ POP เคลื่อนขบวนสัญจรไปทั่วเมือง ตามจุดพบปะของเหล่าวัยรุ่น รวมไปถึงศูนย์การค้า และคอมมูนิตีมอลล์ ชั้นนำ ในเขตกรุงเทพมหานคร จนถึงสิ้นปี 2566 พร้อมกับเพลง JINGLE สุดครึกครื้นชวนเต้น ที่เรียบเรียงคำร้องและทำนอง มาเพื่อแคมเปญนี้โดยเฉพาะ
นายพิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน “ดอยคำ” ยังคงเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดน้ำผลไม้ระดับ Premium โดยเฉพาะน้ำมะเขือเทศ ที่เราถือได้ว่าเป็น “King of Tomato” ที่อยู่ในใจผู้บริโภคมาโดยตลอด และในวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมาหลายธุรกิจหดตัวลง รวมไปถึงธุรกิจน้ำผลไม้ แต่ “ธุรกิจไอศกรีม” ในประเทศไทยกลับยังดำเนินต่อไปได้แถมมีโอกาสเติบโตขึ้นอีกด้วย โดยปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดกว่า 15,000 ล้านบาท (ข้อมูลจาก บริษัท โกลเบิล ดาต้า จำกัด) ยังคงมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทยยังเป็นประเทศที่ส่งออกสินค้าประเภทไอศกรีม เป็นอันดับ 4 ของโลก
“ICE POP” เป็นเพียงจุดเริ่มต้นในการรุกเข้าสู่ตลาดไอศกรีม ซึ่งมีจุดขายแตกต่างจากไอศกรีมทั่วไป โดยผลิตจากผลไม้แท้จากเกษตรกรไทย บรรจุในแพคเกจจิ้งรูปแบบใหม่ รักษ์โลก และอีกหนึ่งจุดขายที่สำคัญ คือ สามารถจัดเก็บได้ในอุณหภูมิห้อง ทั้งนี้ คาดว่าผลิตภัณฑ์ ICE POP จะได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในปีแรกกว่า 50 ล้านบาทหรือกว่า 30 ล้านชิ้น ในอนาคตคาดว่า “ICE POP” จะกระโดดไปบุกตลาดต่างประเทศที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความแตกต่างในตลาดอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
สุดท้ายนี้ “ICE POP” ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันสร้างโลกสีเขียว เพียงนำซอง “ICE POP” ที่รับประทานหมดแล้วมาร่วมกิจกรรม “แกะ ล้าง เก็บ” กับ ดอยคำ โดย 1 ซอง มีมูลค่า 1 บาท ใช้แลกเป็นส่วนลดสำหรับซื้อผลิตภัณฑ์ดอย ได้ที่ร้านดอยคำทุกสาขา ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่นำมาแลกเป็นส่วนลดจะถูกนำไปรีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ในชุมชน สามารถร่วมกิจกรรมดีๆ นี้ ได้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ถึง 31 ธันวาคม 2566 ติดตามข้อมูลดอยคำได้ที่ คลิก www.doikham.co.th หรือ Line ID : @DoiKham