นอกจากเป็นเจ้าพ่องานมิวสิคเฟสติวัลในไทยแล้ว “ป๋าเต็ด ยุทธนา บุญอ้อม” และศิลปินหนุ่มอย่าง “กวาง เอบีนอร์มอล” (ศิริศิลป์ โชติวิจิตร) ยังโชว์ศักยภาพสวมหมวกใบใหม่ในฐานะ “นักกีฬาโป๊กเกอร์” เพื่อลุยสนามแข่งทุกทัวร์นาเมนท์ที่ผู้ลงแข่งต้องฝึกฝนทักษะและกลยุทธ์อย่างหนัก โดยหลังลงแข่งขันโป๊กเกอร์ระดับนานาชาติ “Asian Poker Tour Vietnam Hanoi Loyal 2022” ที่จัดขึ้นที่ประเทศเวียดนามนั้น ป๋าเต็ดสามารถคว้าอันดับที่ 35 จากประเภท Main Event จากผู้ลงสมัครทั้งสิ้น 417 คนทั่วโลก คว้าเงินรางวัลประมาณ 56 ล้านดอง หรือ 84,000 บาท ส่วนด้านกวางจบที่อันดัน 3 ประเภท NLH Single Day Event คว้าเงินรางวัล 58,130,000 ดอง หรือราว 87,000 บาท ทำเอาทั้งป๋าเต็ดและกวางพอใจกับครั้งแรกของการแข่งขัน พร้อมวางเป้าฝันไกลไปจนถึงทัวร์นาเมนท์ระดับโลกที่เมือง ลาสเวกัส ที่นักแข่งโป๊กเกอร์ทุกคนใฝ่ฝัน โดย “ป๋าเต็ด” เผยว่า
“สำหรับโป๊กเกอร์อย่างแรกเลยมันเป็นกีฬา แต่ผู้คนที่ไม่ได้เข้าใจมันอย่างถ่องแท้ จะเข้าใจว่ามันคือการเล่นการพนัน แต่จริง ๆ แล้วมันมีโป๊กเกอร์อยู่สองแบบ แบบนึงเขาเรียกว่าแคชเกมส์ คือเอาเงินไปเล่น แต่ที่ผมไปแข่งมันคือการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนท์ จริง ๆ ผมฝึกเล่นโป๊กเกอร์แบบทัวร์นาเมนท์มานานแล้ว น่าจะมีเกิน 10 ปี อาจจะมี 20 ปีด้วยซ้ำไป ส่วนใหญ่ก็ฝึกในแอพบ้าง โดยศึกษาผ่านยูทูปและอ่านหนังสือบ้าง พอได้มีโอกาสไปแข่งจริง ก็เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งแข่งขันในทัวร์นาเมนท์ที่เวียดนาม ก่อนไปโชคดีที่ผมมีโปรอย่าง ‘คุณเต้-พชร วงศ์วิชิต ’ เป็นนักโป๊กเกอร์มือหนึ่งของประเทศไทย เขาก็ติวให้ มันเหมือนแข่งกีฬาครับ ดังนั้นไม่ว่าจะได้ตำแหน่งอะไรมา มันก็สูงสุดอยู่แล้วครับ ประเภทที่ผมแข่งชื่อว่า เมน อีเว้นท์ เหมือนเป็นถ้วยใหญ่ของเขา มีผู้เข้าแข่งขันประมาณ 400 กว่าคน ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีครับ นี่ก็เริ่มมองทัวร์ต่อไปแล้ว ความจริงเขามีแข่งกันทุกเดือนเลย หรือถ้าเราตัดสินใจว่าจะมีอาชีพเป็นนักเล่นโป๊กเกอร์แล้ว ก็อาจไปแข่งทุกทัวร์นาเมนท์ แต่ตอนนี้เรายังเป็นแค่นักกีฬามือสมัครเล่นอยู่ ตั้งใจว่าทัวร์ต่อไปน่าจะเป็นที่ไต้หวันในเดือนกันยานี้ ตอนนี้คิดว่าถ้าวันนั้นไม่ติดขัดอะไรก็จะไปแข่ง ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่ขึ้น ส่วนทัวร์นาเมนท์ใหญ่สุดที่อยากไปแข่งซึ่งเป็นความฝันของนักกีฬาโป๊กเกอร์ทุกคนจะอยู่ที่ลาสเวกัส สนามนี้ถ้าผมลงแข่งเมนอีเว้นท์ของเขา ค่าสมัคร 8 แสนกว่าบาท คนสมัครเป็นพัน ๆ คน ถือเป็นถ้วยสูงสุดแล้ว เพราะสนามเวกัสนี่คือที่สุดแล้ว มีแต่มือวางระดับโลก คงต้องฝึกฝนหาประสบการณ์อย่างหนักต่อไป เหมือนนักกีฬาที่ต้องค่อยๆไต่ระดับขึ้นไป ตั้งเป้าไว้จากนี้ไม่เกิน 1 ปีต้องพัฒนาฝีมือเพื่อไปแข่งในสนามนี้ให้ได้ครับ”